TUTOR✔

Dear ABBY : I'm a hight school___1___the amazing opportunity to trael to spainfor a year___2___a foreign exchange student. I Know I am very lucky to have thisoppotunity to travel, but I___3___about the people there. I am a Mormon. 30 I will have touphold my standards alone in a non-Mormon environment. I have never been away from home forthis long, and that's___4___as it is. I guess I just need some___5___on how to bestrongwhen  I'm there.

DEAR ALONE: I agree that you are being gi ven an amazing opportunity to grow and learn. If you haven't spoken about this with your adviser, please do so. I assume you will be living with a host family. When you get there, consider ______ 6______ your concerns with the parents. I am sure you will be encouraged to stick to your standards and beliefs, and be respected for doing so if you ______7______ to also respect ______ 8______ who may not think exactly the way you do.

1.  1. has    2. having    3. who   4. who have    5. that is

1. เฉลย 2 having ข้อนี้วัดเรื่องการใช้กริยาไม่แท้ กล่าวคือ ประโยคนี้มีกริยาแท้อยู่แล้วคือ am (I'm) ดังนั้นกริยาตัวอื่น ๆ จะต้องอยู่ในรูป กริยาไม่แท้เท่านั้น ตามหลักภาษาอังกฤษที่ในหนึ่งประโยคจะมีกริยาแท้ได้เพียงตัวเดียวเท่านั้นหากประโยคนั้นไม่มีค าเชื่อม เมื่อ พิจารณาความหมายแล้วพบว่าโจทย์ต้องการสื่อว่า "...นักเรียน ที่มี โอกาส..." ดังนั้นจึงควรใช้ has/have ที่มีความหมายว่า มี และ ท าการลดรูปให้เป็นกริยาไม่แท้โดยใช้ Present participle เข้ามาช่วย ( v.ing) เนื่องจากให้ความหมายว่านักเรียนคนนี้ "มี" ด้วยตัว ของเขาเอง คำตอบจึงเป็น having จากหลักการดังกล่าว เราสามารถตัด ข้อ ที่ 1 has ซึ่งเป็นกริยาแท้โดด ๆ ออกไปได้ ส่วน ข้ อ 3 who เป็น relative pronoun ที่ใช้แทน a high school student ข้างหน้า แต่ก็ไม่สามารถใช้โดด ๆ โดยไม่มีกริยาได้เพราะจะไม่ สอดคล้องกับความหมายที่โจทย์ต้องการสื่อ ข้อ 4 who have โครงสร้างนี้จะใช้ได้หากเป็น who has เพราะ who เป็น relative pronoun ที่ใช้แทน a high school student ซึ่งเป็นค านามเอกพจน์ แต่ในตัวเลือกกลับใช้ have ซึ่งเป็น กริยาที่ใช้กับค านาม พหูพจน์ จึงไม่สามารถใช้ในข้อนี้ได้ เนื่องจากมีกริยาที่ไม่สอดคล้องกับประธานเอกพจน์ข้างหน้า ข้อ 5 that ใช้แทนค านามคน ( student ) ด้านหน้าได้ แต่กริยา is ไม่สามารถใช้ ในที่นี้ได้เนื่องจากมีความหมายไม่เหมาะสมกับบริบท

2. 1 since   2. in  3. according  4. as   5. f rom

2 . เฉลย 4 as โจทย์ต้องการค าที่มีความหมายว่า “ ในฐานะ ” ข้อที่มีความหมายดังกล่าวคือข้อ 4 ค าว่า as หากตามด้วยคำนามจะให้ ความหมายว่า “ ในฐานะ ” แต่หากตามด้วยประโยคจะให้ความหมายว่า “ เพราะว่า หรือ ในขณะที่ ”

3.  1.scare   2. am scared  3. am scaring   4. was scaring  
5. was scared

3 . เฉลย 2 am scared ข้อนี้วัดเรื่องโครงสร้างคู่ขนาน ( Parallelism) และการใช้กริยาที่เติม - ing และ - ed แล้วมีความหมายต่างกัน โดยจะเห็น ได้ ว่าประโยคหลังคำเชื่อม but ยังขาดกริยาแท้ เรา จึงต้องเลือกกริยา แท้ ที่เหมาะสม เมื่อพิจารณาตัวเลือกก็พบว่ามีกริยาที่อยู่ในรูป ปัจจุบัน และอดีต ดังนั้นเราอาจใช้กริยาอื่นเป็นตัวบอกใบ้คำตอบ ตามหลักการคู่ขนาน นั่นคือกริยาที่อยู่หน้าคำเชื่อม but ซึ่งคือ am ( กริยารูปปัจจุบัน ใช้กับประธาน I เท่านั้น) จึงเหลือตัวเลือกที่ 1 2 และ 4 ที่เป็นกริยารูปปัจจุบัน เมื่อวิเคราะห์เรื่องกริยา หลัก แล้ว จึงมาวิเคราะห์เรื่องกริยาที่มีความหมายพิเศษนั่นคือ scare โดยหากอยู่โดด ๆ จะแปลว่า ทำให้ตกใจกลัว หากเติม ing จ ะ แปลว่า น่ากลัว และหากเติม ed จะแปลว่า รู้สึกกลัว ข้อที่มีความหมายเหมาะสมกับบริบทที่สุดจึงเป็นข้อ 2 am scared ฉันรู้สึก กลัวในเรื่อง/เกี่ยวกับ...

4.   1. very enough hard   2. enough hardly  3. hardly enough  
4. such hard   5. hard enough

4 . เฉลย 5 hard enough โจทย์ต้องการวัดการใช้คำให้ถูกต้องตามความหมายและหลักการเรียงลำดับคำ โดยโจทย์ต้องการสื่อว่า ยาก/หนักพอ การใช้ enough นั้นมีหลักการว่า adj. + enough หรือ enough + noun คำว่า hard เป็นคำประเภท adj. ดังนั้นจึงควรใช้ hard enough ส่วนข้ออื่น ๆ ผิดความหมายหรือไวยากรณ์ทั้งหมด เช่นคำว่า hardly แปลว่า แทบจะไม่ ส่วน such + (adj.) + noun

5. 1. decision 2. comment 3. advice 4. excuse 5. complaint

5 . เฉลย 3 advice ข้อนี้วัดการใช้คำศัพท์ให้เหมาะสมกับบริบทของจดหมาย เมื่อพิจารณาเนื้อความของจดหมายแล้วพบว่าผู้เขียนส่ง จดหมาย มาปรึกษาเพื่อต้องการ"คำแนะนำ" ดังนั้นจึงควรใช้ advice ที่แปลว่า "คำแนะนำ"

6. 1. discussing 2. to di scuss 3. discuss 4. with discussing 
5. on discussing

6. เฉลย 1 discussing กริยา consider ต้องตามด้วย v.ing แบบ Gerund (Gerund คือกริยาที่นำมาเติม ing แล้วทำหน้าที่เสมือนคำนามทุก ประการ แปลว่า การ... หรือ ความ...)

7. 1. remember  2. remembered  3. are remembered  4. will remember  5. will be remembered

7. เฉลย 1 remember ข้อนี้วัดเรื่อง If clause หรือ Conditional sentence โดยอาจสังเกตจากคำว่า if ที่อยู่ด้านหน้า เมื่อพิจารณา ความหมายและโครงสร้างประโยคแล้วพบว่าประโยคนี้ใช้ If clause แบบที่ 1 โครงสร้าง If + Present Simple, Subject + will + v.inf หรืออาจสลับที่ได้เป็น Subject + will + v.inf + if + Present Simple ซึ่งประโยคนี้มีโครงสร้างแบบหลัง โดยส่วนที่เป็น Subject + will + v.inf ในประโยคนี้คือ you will be... ดังนั้นส่วนหลัง if จึงต้องการกริยาที่อยู่ในรูป present simple ซึ่งมีเพียง ตัวเลือกที่ 1 และ 3 เท่านั้นที่อยู่ในรูปดังกล่าว แต่ความแตกต่างคือตัวเลือกที่ 1 เป็นโครงสร้าง active ให้ความหมายว่าประธาน กระท าเอง ส่วนตัวเลือกที่ 3 เป็นโครงสร้าง passive (be + v.3) ให้ความหมายว่าประธานถูกกระท า เมื่อเราพิจารณาความหมาย แล้วพบว่าประโยคนี้ต้องการสื่อว่าประธานเป็นผู้กระทำกริยา remember ( จดจำ ) ด้วยตนเอง คำตอบจึงเป็นตัวเลือกที่ 1

8. 1. other  2. other s  3. the other  4. the others  5. another

8. เฉลย 2 others ในที่นี้โจทย์ต้องการคำว่า “ คนอื่น ๆ ” others ใช้ได้โดยไม่ต้องมีคำนามตามหลัง

ใช้เสมือนเป็นคำนาม แปลว่า อื่น ๆ ที่ไม่ ชี้เฉพาะว่าเป็นอันไหน และไม่ทราบจำนวนที่แน่นอน แต่รู้ว่ามีมากกว่าหนึ่ง เช่น While some people enjoy city life, others prefer country life. และในโจทย์ข้อนี้ก็ต้องการคำที่มีความหมายว่า "คนอื่น ๆ" ที่ไม่เจาะจงว่าเป็นใคร จึงต้องใช้ others ส่วน ตัวเลือกที่ 1 other ใช้ไม่ได้ เพราะ other + คำนามพหูพจน์ แปลว่า อื่น ๆ ที่ไม่ชี้เฉพาะว่าเป็นอันไหน เช่น other cities แต่ ในโจทย์ไม่มีคำนามคำใดอยู่หลังช่องว่างเลย ตัวเลือกที่ 3 the other ใช้ไม่ได้ เพราะ the other แปลว่า อีกหนึ่งที่เหลืออยู่ในจำนวนสองอย่าง เช่น I have two little sons, one a baby, the other one a boy of twelve. แต่ในโจทย์ไม่ได้กล่าวถึงอีกหนึ่งที่เหลืออยู่ในจ านวนสองอย่างแต่อย่างใด ตัวเลือกที่ 4 the others ใช้ไม่ได้ เพราะ the others แปลว่า อันอื่น ๆ ที่เหลืออยู่ และรู้กันแน่นอนว่าเหลืออยู่เท่าไหร่ แต่ต้อง เหลือมากกว่าหนึ่ง เช่น The others are coming. คนอื่น ๆ ก าลังมา แต่ในโจทย์ข้อนี้ เราไม่รู้แน่นอนว่าคนอื่น ๆ เหลืออยู่เท่าไหร่ ตัวเลือกที่ 5 another ใช้ไม่ได้ เพราะ another + ค านามเอกพจน์ แปลว่า อีกหนึ่ง เช่น another car รถอีกหนึ่งคัน แต่ในโจทย์ ไม่มีค านามค าใดอยู่หลังช่องว่างเลย นอกจากนี้ another + คำนามพหูพจน์ได้ ถ้ามีคำแสดงจำนวนนับหน้านามนั้น เช่น another ten months (ten คือคำแสดงจำนวนนับ)

 The Historic City of Ayutthaya, _____ 9 ____ in 1350, was the second capital of the Siamese Kingdom. It flourished from the 14th to the 18th centuries, during which time it grew to be one of _____ 10 _____ and most cosmopolitan urban areas and a center of global diplomacy and commerce. Ayutthaya _____ 11 _____ on an island surrounded by thre e rivers connecting the city to the sea. This site was chosen _____ 12 _____ it was located above the tidal bore of the Gulf of Siam as it existed at that time, thus preventing attack of the city by the sea - going warships of other nations. The location also helped to protect the city from seasonal flooding. The city was attacked and razed by the Burmese army in 1767 _____ 13 _____ burned the city to the ground and f orced the inhabitants to abandon the city. The city was never rebuilt in the same location and remains known today as an extensive archaeological site.

9.1. finds 2. found 3. founded 4. was found 5. was founded

9. เฉลย 3 founded ตำแหน่งนี้คือส่วนขยาย (สังเกตจากที่มีเครื่องหมายคอมม่าคั่นหน้าและหลัง) โดยประโยคนี้มีกริยาแท้คือ was อยู่แล้ว จึง ต้องการกริยาไม่แท้ใน รูป Past Participle (v.3) ให้ความหมายว่าคำนามที่มันขยายถูกกระทำโดยประโยคนี้ต้องการสื่อ ความหมายว่า ประวัติศาสตร์ ของเมืองอยุธยา

 '( ถูกทำให้)เริ่มต้นขึ้น ' ในปี 1350 เราจึงต้องเลือกกริยาให้เหมาะสมกับความหมาย คำว่า founded เป็นกริยาช่องที่ 3 (Past participle) ของคำว่า found ที่แปลว่า ก่อตั้ง/สร้าง/เริ่มต้นขึ้น คำตอบจึงเป็นข้อนี้ ส่วนข้ออื่น ๆ ใช้ไม่ได้ เช่น ข้อ 1 finds (v.1) เป็นกริยาแท้รูปปัจจุบัน ให้ความหมายว่า หา/ค้นพบ จึงผิดทั้งความหมาย และไวยากรณ์ในตำแหน่งนี้ ข้อ 2 found ทำหน้าที่ ได้หลายอย่าง คือหากแปลว่า หา/ค้นพบ จะสามารถเป็น ( v.2) หรือ ( v.3) ก็ได้ หากเราอนุมานให้เป็น v.2 ก็ไม่สามารถใช้ได้เพราะเป็นกริยาแท้และผิดความหมายในต าแหน่งนี้ และหากอนุมานให้เป็น v.3 ก็ไม่ สามารถใช้ได้ เพราะ ผิดความหมายในตำแหน่งนี้ ถึงแม้ว่าจะเป็นกริยาไม่แท้ก็ตาม นอกจากนี้ found ยังเป็น v.1 ที่ แปลว่า ก่อตั้ง/ สร้าง/เริ่มต้นขึ้น แต่ก็ไม่สามารถใช้ในตำแหน่งนี้ได้เพราะหากอนุมานให้เป็น v.1 ก็เท่ากับเป็นกริยาแท้ จึงผิดหลักไวยากรณ์ใน ตำแหน่งนี้ ข้อ 4 was found เป็นกริยาแท้และผิดความหมายในตำแหน่งนี้ ข้อ 5 was founded ถึงแม้จะถูกความหมายแต่ก็ไม่ สามารถใ ช้ได้เพราะเป็นกริยาแท้

find (v. 1) - found (v. 2) - found (v. 3) = หา / พบ แต่ found (v. 1) - founded (v. 2) - founded (v. 3) = ก่อตั้ง/สร้าง /เริ่มขึ้น

10.  1. the world’s the largest   2. the world’s largest   
3. the world’s most large         4. the world most largest   
5. the most largest world

10. เฉลย 2 the world's largest ตำแหน่งนี้ต้องการคำเปรียบเทียบแบบขั้นสุด โดยอาจสังเกตจาก and ที่เชื่อมโครงสร้างเปรียบเทียบขั้นสุด ( most cosmopolitan...) ไว้ด้วยกัน และเมื่อพิจารณาตัวเลือกรวมถึงความหมายแล้วก็พบว่า โจทย์ต้องการสื่อว่า ' อยุธยาเป็นหนึ่งในเมือง ที่ใหญ่ที่สุดของโลก ' ตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดคือ the world's largest โดยมี largest เป็นตัวเปรียบเทียบขั้นสุดด้วยวิธีการเติม est เข้าข้างหลัง ตามหลัก adj. ที่มี 1 - 2 พยางค์ และไม่ต้องมี most เข้ามาอีก ส่วน adj. ที่มี 2 - 3 พยางค์จะใช้วิธีเติม most ข้างหน้า adj. นั้น ๆ อีกทั้งการเปรียบเทียบขั้นสุดนี้ต้องเติม the เข้าข้างหน้า adj. ที่เติม est หรือเติมข้ างหน้า most เสมอ อย่างไรก็ตาม หลักการหนึ่งที่สำคัญคือเราจะไม่ใช้ the เมื่อการเปรียบเทียบนั้นอยู่หลังการแสดงความเป็นเจ้าของ เช่น my, his, your หรือ คำนามที่ตามด้วย ’s ซึ่งใช้ในการแสดงความเป็นเจ้าของ ในโจทย์ ข้อนี้ คือ the world’s ( ของโลก) ดังนั้นจึงไม่สามารถใช้ the world’s the largest ได้

11.  1. was strategically located    2. was strategical located    
3. was strategically locating        4. strategically located           
5.is located strategical

11. เฉลย 1 was strategically located ประโยคนี้วัดเรื่องกริยาและการใช้คำขยาย โดยประโยคนี้ต้องการสื่อว่า ' อยุธยา (ถูกทำให้)ตั้งอยู่ บนเกาะโดยหลัก ยุทธศาสตร์... ' ซึ่งเมื่อพิจารณาแล้วพบว่าประโยคนี้ยังขาดกริยาแท้และต้องการกริยาแท้แบบ passive (be + v. 3) เพื่อให้เหมาะสม กับความหมาย จึงเหลือตัวเลือกที่ 1 2 5 ส่วนข้อ 3 ขาด v. 3 และข้อ 4 ขาด v.to be จึงไม่สามารถใช้ได้ ตัวเลือกที่สามารถตัดได้ ต่อไปคือตัวเลือกที่ 5 ใช้กริยา is ที่เป็นปัจจุบัน จึงผิดกาลเวลาของเรื่องที่เป็นอดีตอีกทั้งยังขยายค าได้ผิ ด ส่วนข้อ 2 ใช้ไม่ได้ เพราะ strategical เป็น adj. จึงไม่สามารถใช้ขยายกริยา located ได้ กริยาต้องถูกขยายโดย adv. เท่านั้น โครงสร้างที่ถูกต้องของคำใน ตำแหน่งนี้จึงเป็น be + adv. + v.3

12. 1. although  2. because  3. nevertheless  4. or else  5. therefore

12. เฉลย 2 because โดยประโยคข้างหน้ากล่าวว่า พื้นที่แห่งนี้ถูกเลือก... และประโยคข้างหลังกล่าวว่า มันตั้งอยู่เหนือเขตน้ าทะเลหนุน.... คำตอบที่เหมาะสมจึงควรเป็นคำเชื่อมที่ให้เหตุผลนั่นคือ because โดย because + ประโยค ส่วน because of + นาม / วลี

13. 1. when  2. where 3. who 4. whose 5. whom

13. เฉลย 3 who เมื่อพิจารณาความหมายแล้วพบว่าตำแหน่งนี้ต้องการ relative pronoun แทนคำนาม the Burmese army ( กองทัพพม่า) จึงต้องใช้ who ที่ใช้แทนคนและทำหน้าที่เสมือนเป็นประธานของประโยคย่อย โดยมีกริยา burned ตามมา ส่วน in 1767 (ปี 1767) เป็นเพียงส่วนขยายเท่านั้น จึงไม่สามารถ ใช้ when ได้ กล่าวอีกนัยหนึ่งคือปี 1767 ไม่สามารถกระท ากริยา burned และ forced ได้นั่นเอง ส่วน whose ใช้แสดงความเป็นเจ้าของกับเจ้าของที่เป็นคน และ whom ใช้แทนคนที่เป็นกรรม

The Pis a tests, _____ 14 _____ compare teenagers' ability in reading, maths and science, for the first time are also going to test "global competence". It's a significant departure to move from maths p uzzles and literacy tests _____1 5 _____ questions about fake news, global warming and racism. The inaugural te sts for global compet ence _____1 6 _____ in about 80 countries next year - and the results are going to be pushed centre - stage in the following round of Pisa rankings. The tests, run every three years by the Organization for Economic Co - operation and Devel opment, have become a mong _____1 7 _____ measures for global education standards.

14 . 1. that  2. what  3. how  4. which  5. whose

14. เฉลย 4 which ตำแหน่งนี้ต้องการ relative pronoun ที่ใช้แทนประธาน The Pisa tests ( สิ่งของ) จึงต้องใช้ that หรือ which อย่างไร ก็ตามตำแหน่งนี้ไม่สามารถใช้ that ได้เพราะอยู่หลังเครื่องหมายคอมม่า ( ,) กล่าวคือ ห้ามใช้ that หลังเครื่องหมายคอมม่า ( ,) ใน ประโยค Relative Clause แบบ Non - defining (Non - restrictive) แต่ให้ใช้ which ส่วน what ใช้กับ โครงสร้าง noun clause

15. 1. to asking  2. to ask  3. by asking  4. by ask  5. in asking

15. เฉลย 1 to asking ตำแหน่งนี้ต้องการ to ที่ทำหน้าที่เป็นคำบุพบท ( preposition) เพราะอยู่ในโครงสร้าง from...to... โดยคำที่อยู่หลัง to ซึ่ง เป็นคำบุพบทต้องอยู่ในรูปคำนามหรือ v.ing แบบ Gerund เท่านั้น จึงไม่สามารถใช้ to ask ที่เป็น v.inf ได้ จดจำไว้เสมอ ว่า to ที่ต้องตามด้วย v.inf ( v . i n f คือ กริยาไม่ผัน ไม่เติม s, es, ing, ed ใด ๆ ทั้งสิ้น) จะต้องให้ความหมายว่า เพื่อที่จะ... หรืออยู่หลัง กริยาที่ต้องตามด้วย to v.inf เท่านั้น เช่น agree to + v.inf เป็นต้น ส่วน to ที่เป็นคำบุพบทต้องตามด้วยคำนามหรือ v.i ng แบบ Gerund เสมอ

16.   1. take place   2. taking place   3. being taken place   
4. will take place    5. will have been taking place

16. เฉลย 4 will take place ตำแหน่งนี้ยังขาดกริยาแท้อยู่ และ Tense ที่เหมาะสมคือ Future simple tense โครงสร้าง ( will + v.inf หรือ be going to + v.inf) โดยอาจสังเกตจากคำบอกเวลา next year

17.  1. the widely most used   2. the most widely used   
3. the used most widely        4. the more widely used  
5. the most widely using

17. เฉลย 2 the most widely used ประโยคนี้ต้องการใช้โครงสร้างเปรียบเทียบขั้นสุด จึงต้องใช้โครงสร้าง the most กับคำว่า used ซึ่งทำหน้าที่เสมือน adj. ไปขยายคำนาม measures และมี widely ซึ่งเป็น adv. ทำหน้าที่ขยาย used ซึ่งเป็น adj. (past participle) ตามหลักการ adv. + adj. + noun

 We are quickly approaching the day when people who suffer the most ______1 8 ______ of vision loss and blindness, _______1 9 ______ macular degeneration, glaucoma, cataracts, corneal visual impairment, diabetic retinopathy, and even near and far - sightedness can kiss goodbye to their glasses or contact lenses and even forget about considering Lasik operations... This is ______ 20 ______ a breakthrough from a retired United States Marine Corps along with a medical researcher, with over 26 years experience, that is going to change everything we thought we knew about deteriorating vision...

18.  1. cause common  2. common cause  3. common causes  
4. commonly causes    5. cause commonly

18. เฉลย 3 common causes ตำแหน่งนี้ต้องการ adj. + noun เนื่องจากตามหลัง the most ซึ่งเป็นการเปรียบเทียบขั้นสุด และอยู่หน้าบุพบท of หลักการเรียงลำดับคำคือ adj. + noun จึงเหลือตัวเลือกที่ 2 และ 3 แต่ตัวเลือกที่ 2 ไม่สามารถตอบได้ เพราะ cause อยู่ในรูป คำนามเอกพจน์ซึ่งผิดความหมายเพราะ cause ( สาเหตุ) ในที่นี้ไม่ได้มีสาเหตุเดียว จึงต้องใช้ causes ในตัวเลือกที่ 3 ซึ่งอยู่ในรูป พหูพจน์จึงจะถูกต้อง

19.  1. as if  2. despite  3. that is  4. for example  5. such as

19. เฉลย 5 such as เมื่อพิจารณาความหมายแล้วพบว่าตำแหน่งนี้ต้องการคำเชื่อมที่เป็นการยกตัวอย่าง โดยตัวอย่างที่ตามมาคือ macular degeneration, glaucoma, cataracts.... จึงเหลือตัวเลือกที่ 4 และ 5 แต่เราไม่สามารถใช้ for example ได้ เพราะ for example, ต้องมีคอมม่าคั่นหน้าและหลังคำเสมอในกรณีที่อยู่ในประโยค ซึ่งในประโยคนี้ไม่มีเครื่องหมายคอมม่า จึงต้องใช้ such as เท่านั้น กล่าว คือ such as ไม่ต้องมีคอมม่าตามหลังและให้ใช้อยู่ระหว่างประโยคได้เลย ส่วน for example, for instance, ต้องมีคอมม่าคั่นหน้าและหลังคำเสมอในกรณีที่อยู่ในประโยค แต่หากใช้ขึ้นต้นประโยคใหม่ให้มีคอมม่าเฉพาะข้างหลังเท่านั้น ทั้ง สามคำแปลว่า ตัวอย่างเช่น...

20.  1. because  2. thanks to  3. although  4. if not  5. in addition to

20. เฉลย 2 thanks to บทความต้องการสื่อว่าถึง เวลาแล้วที่คนที่มีปัญหากับสายตา จะบอกลาแว่นตาหรือแม้แต่ลืมวิธีการเลสิคไปได้เลย ' นี่ ก็ ________ การค้นพบครั้งยิ่งใหญ่จาก.... ' ดังนั้นส่วนที่หายไปจึงควรเป็นคำเชื่อมที่แสดงเหตุผล และต้องเป็นคำเชื่อมที่ตามด้วย คำนาม/วลี เนื่องจากสิ่งที่ตามมาข้างหลังเป็นคำนาม คำตอบจึงเป็น thanks to ( เพราะ/เนื่องจาก) อีกทั้งคำๆ นี้ยังใช้กับการบอก เหตุผลในเชิงบวกอีกด้วย

Introversion and extroversion ______ 21 ______ the subject of psychological theories for decades. Today, psychologists who study personality often see introversion and extroversion as part of _______ 22 _______ is known as the five - factor model of personality. ______ 23 ______ this theory, people's personalities can ______ 24 ______ based on their levels of five personality traits . Psychologists ______2 5 ______ the five - factor model see the trait of extroversion as having multiple components. ______2 6 ______ are more extroverted tend to be more social, more talkative, more assertive, more likely to seek out excitement, and are thought to experience more positive emotions. People who are more introverted, on the other hand, tend to be quieter and more __ ____2 7 ______ during social interactions. Importantly, ______2 8 ______ , shyness isn't the same thing as introversion: introverts can be shy or anxious in social situations, but this isn't always the case. Additionally, being an introvert doesn't mean that so meone is antisocial. As Susan Cain, bestselling author and introvert herself, explains in an interview with Scientific American, "We're not anti - social; we're differently social. I can't live without my family and close friends, but I also crave solitude."

21 . 1. is  2. are  3. were  4. will be  5. have been

21. เฉลย 5 have been ตำแหน่งนี้ต้องการกริยาในรูป Present Perfect Tense โดยอาจสังเกตจากคำบอกว่า for decades ( เป็นระยะเวลา หลายทศวรรษ) ที่ตามมา ให้ความหมายในเชิงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่อดีตและยังดำเนินมาถึงปัจจุบัน

22. 1. which  2. what  3. when  4. where  5. how

22. เฉลย 2 what ข้อนี้วัดเรื่องของ Noun clause เราใช้ what นำหน้า Noun clause โดยจะใช้เป็น subject ( ประธาน) หรือ object ( กรรม) ก็ได้ อีกทั้งยังสามารถใช้คำว่า what ในฐานะคำนามได้ ให้ความหมายว่า สิ่งที่.../อะไรที่... ซึ่งตามประโยคในโจทย์ข้อนี้มี ใจความว่า "นักจิตวิทยาผู้ศึกษาบุคลิกภาพมักมองบุคลิกแบบ introversion และ extroversion เป็นส่วนของ ' สิ่ง ' ที่รู้จักกันว่า...." กล่าวคือ what ในที่นี้ทำหน้าที่เป็นประธานของ Noun cla use “what is known as...” และส่วนของ Noun clause ทั้งหมดนี้ ทำหน้าที่เป็นกรรมของบุพบท of ส่วนข้อที่ 1 which จะใช้นำหน้า Adjective clause เพื่อใช้ขยายคำนามเท่านั้น ส่วนตัวเลือก อื่น ๆ มีความหมายไม่เข้ากับบริบท

23. 1. On behalf of  2. Because of  3. According to  4. Thanks to  
5. In spite of

23. เฉลย 3 According to According to.... ให้ความหมายว่า ตามที่ .../ จาก... ซึ่งมักจะอ้างถึงสิ่งที่เป็นข่าว/หลักการ/ความคิดเห็น โดยจะใช้ขึ้นต้น ประโยค แล้วตามด้วยคำนามหรือวลี ซึ่งในบทความนี้ใช้ According to เพื่ออ้างถึงทฤษฎีที่อยู่ด้านหน้า แล้วจึงยกเนื้อหาในทฤษฎี ขึ้นมากล่าวคือตั้งแต่ people's personalities can...

24 . 1. describe  2. to describe  3. to be described  4. be described  
5. be describing

24. เฉลย 4 be described ตำแหน่งนี้ต้องการกริยาในรูป v.inf ไม่มี to เนื่องจากอยู่หลัง can (mod a l verb ที่ต้องตามด้วย v.inf ไม่มี to เสมอ) จึงเหลือตัวเลือกที่ 1 4 และ 5 เมื่อพิจารณาความหมายแล้วพบว่าประธาน people's personalities ไม่สามารถกระทำกริยา describe เองได้ จึงต้องใช้ในโครงสร้าง passive voice (be + v.3) คำตอบจึงเป็นตัวเลือกที่ 4 be described

25. 1. use  2. using  3. used  4. to use  5. will use

25. เฉลย 2 using เนื่องจากประโยคนี้มีกริยาแท้คือ see อยู่แล้ว ดังนั้น กริยาตัวอื่นจึงต้องอยู่ในรูปกริยาไม่แท้หรือใช้ relative pronoun + กริยา มาขยายเท่านั้น คำตอบที่เหมาะสมจึงเป็นข้อ 2 using ซึ่งเป็น

กริยาไม่แท้แบบ Present participle ขยายประธาน Psychologists ( นักจิตวิทยา ) ที่อยู่ข้างหน้าว่าเป็นผู้กระทำกริยา use ด้วยตนเอง ส่วน used หากเป็นกริยาไม่แท้จะแปลว่า นักจิตวิทยา ถูกใช้หรือจะเป็นกริยาแท้ v.2 ก็ได้ จึงไม่สามารถใช้ได้ส่วน to use ถึงแม้จะเป็นกริยาไม่แท้แต่ก็ไม่สามารถใช้ได้ เช่นกัน เนื่องจากมีความหมายไม่เหมาะสมกับบริบทคือ จะให้ความหมายว่า เพื่อที่จะใช้...

26. 1. Who  2. Those  3. Those who  4. These  5. These people

26. เฉลย 3 Those who ประโยคนี้มีกริยาแท้คือ tend to อยู่แล้ว ส่วน are ที่ตามหลังช่องว่างทำหน้าที่เป็นเพียงส่วนขยายประธานที่ขาดหายไป เท่านั้น ข้อ 1 เราไม่สามารถใช้ W ho ได้เนื่องจาก W ho ไม่เหมาะสมกับความหมายและหากใช้ W ho ทำหน้าที่เป็นประธานของ ประโยคจะทำให้ประโยคนี้ขาดประธานของส่วนขยาย หรือ ประธานของกริยา are ที่ตามมา เช่นเดียวกับ ข้อ 2 4 และ 5 ดังนั้น คำตอบจึงเป็นข้อ 3 Those who โดยมี Those ทำหน้าที่เป็นประธานหลักของประโยคหรือเป็นประธานของกริยา tend to ส่วน who ทำหน้าที่เป็น relative pronoun ใช้แทนประธาน Those เพือทำหน้าที่ เป็นส่วนขยายหรือเป็นประธานของกริยา are ที่ ตามมานั่นเอง เราสามารถแยกประโยคได้ดังนี้

Those < who are more extroverted > tend t o be more social.....

27. 1. courageous  2. reserved  3. confident  4. violent  5. pleasant

27. เฉลย 2 reserved ข้อนี้ต้องการวัดคำศัพท์และ ความเข้าใจในบทความ โดยประโยคด้านหน้ากล่าวว่า คนที่มีบุคลิกภาพแบบ extrovert มี แนวโน้มที่จะเข้าสังคมมากกว่า พูดคุยเก่งมากกว่า..... ในทางกลับกันคนที่มีบุคลิกภาพแบบ introvert มีแนวโน้มที่จะเงียบมากกว่า และ ______ มากกว่า คำตอบที่เหมาะสมจึงเป็น reserved ( เก็บตัว/สงวนท่าที) เนื่องจากมีความหมายตรงกันข้ามกับประโยคด้าน หน้าที่กล่าวบรรยายคนที่มีบุคลิกแบบ extrovert กล่าวอีกนัยหนึ่งคือคำศัพท์คำว่า reserved นิยมใช้บรรยายลักษณะของคนที่มี บุคลิกภาพแบบ introvert

28. 1. unless  2. i n case  3. although  4. however  5. because

28. เฉลย 4 however ข้อนี้ต้องการวัดเรื่องการใช้คำเชื่อมให้เหมาะสมกับความหมายโดยประโยคด้านหน้าช่องว่างกล่าวในทำนองว่าคนที่มีบุคลิกภาพแบบ introvert มีแนวโน้มที่จะเงียบมากกว่าและเก็บตัวมากกว่า ส่วนประโยคด้านหลังช่องว่างกล่าวว่าความอายไม่ใช่สิ่งเดียวกับบุคลิกภาพแบบ introversion ดังนั้นคำเชื่อมที่เหมาะสมที่สุดจึงเป็น however ( อย่างไรก็ตาม) เพื่อกล่าวขัดแย้งหรือให้ ข้อมูลที่ต่างจากประโยคด้านหน้า ส่วน ข้อ 1 unless แปลว่า หากไม่ ข้อ 2 in case แปลว่า ในกรณีที่/เผื่อว่า ข้อ 3 although แปลว่า แม้ว่า ข้อ 5 because แปลว่า เพราะว่า ทั้งหมดนี้ต่างมีความหมายไม่เข้ากับบริบท อีกทั้ง although จะไม่ใช้ตามด้วยเครื่องหมายคอมม่าโดยทันที

Cloze Passage 6

 In January 2014, Canada reported the first human infection with HPAI Asian H5N1 virus in the Americas. This was an “imported” case occurring in a traveler who _____ 29 _____ from China. To date, there have not been any reports of HPAI Asian H5N1 virus infections in people in the United States and Asian H5N1 has never been detected in U.S. birds or poultry. Flu viruses are constantly  changing and animal flu viruses can change such that they may gain the ability to infect people easily and spread among people, _____ 30 _____ a pandemic. Hu man infections with novel avian influenza virus _____ 31 _____ Asian H5N1 are concerning because of this pandemic potential. The virus is _ ____ 32 _____ severe and dangerous that laws are enacted in some cities, enforcing _____ 33 _____ at all times and/or forbidding public gatherings. CDC takes routine public health preparedness measures whenever a virus with pandemic potential is identified. Be cause Asian H5N1 continues to circulate and has been responsible for a number of human infections, Asian H5 preparedness efforts have been extensive. Asian H5N1 vaccine is being stockpiled for pandemic preparedness by the United States government. It could be used if an HPAI H5N1 virus begins _____ 34 ____ _ easily and efficiently _____35 _____ person .

29. 1. recently returned   2. has recently returned   
3. was returning recently  4. had recently returned   
5. have been returning recently

29. เฉลย 4 had recently returned ข้อนี้ต้องการวัดการใช้ Tense ในอดีต โดยโจทย์ต้องการสื่อถึงเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดและจบลงก่อนเหตุการณ์อีกเหตุการณ์ จะเกิดขึ้น โดยเหตุการณ์ที่เกิดก่อนต้องใช้ Past Perfect (had + v. 3) ส่วน เหตุการณ์ที่เกิดหลังต้องใช้ Past simple (V. 2) โดย ความหมายของประโยคนี้คือ "กรณีพบการติดเชื้อครั้งนี้เป็นกรณีที่ถูกน าเข้ามาโดยเกิดกับ ' นักท่องเที่ยวที่เพิ่งจะกลับมา ' จาก ประเทศจีน" กล่าวคือ นักท่องเที่ยวที่เพิ่งจะกลับมา ' จากประเทศจีน ถือเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่ อน จึงต้องใช้รูป Past Perfect (had recently returned) ส่วนการติดเชื้อที่พบเป็นเหตุการณ์ที่เกิดหลังจึงต้องใช้รูป Past simple (This was) จะเห็นได้ว่า ตัวเลือกอื่น ๆ ที่เหลือใช้ Tense ได้ไม่เหมาะสม และบางตัวเลือกมีการวาง adv. ขยายที่ไม่เหมาะสม

30 . 1. resulting in  2. resulted from  3. results to  4. result in  
5. in resulting from

30. เฉลย 1 resulting in ข้อนี้ต้องการกริยาไม่แท้แบบ Present participle เพื่อขยายประโยคด้านหน้าทั้งประโยค โดยโจทย์ต้องการสื่อว่า “ ไวรัส ไข้หวัดในสัตว์สามารถเปลี่ยนแปลงหรือกลายพันธุ์ได้ตลอดเวลาจนมันอาจเพิ่มความสามารถที่จะทำให้มนุษย์ติดเชื้อได้อย่างง่าย และแพร่ระบาดไปอย่างรวดเร็ว _____ โรคระบาด/การระบาด ” คำเชื่อมที่เหมาะสมจึงเป็น resulting in แปลว่า ส่งผลให้เกิด ส่วน result from แปลว่า เป็นผลมาจาก

31. 1. is like   2. alike  3. like   4. to like   5. being liked

31. เฉลย 3 like ข้อนี้ต้องการคำบุพบทที่ใช้ยกตัวอย่างโดยโจทย์มีการยกตัวอย่าง Asian H 5 N 1 ที่ตามมา คำบุพบทที่เหมาะสมจึงเป็น like แปลว่า เช่น/ดังเช่น ส่วน alike จะไม่ใช้ ตามด้วยคำนามทันที คำว่า like และ alike มีความหมายเหมือนกันคือ แปลว่า “ เหมือน ” แต่ค าว่า like ต้องมีคำนามตามหลังเสมอ ส่วนคำว่า alike ไม่ต้องมีคำนามตามหลัง แต่เรามักใช้วางไว้หลัง verb to be, linking verb หรือ verb เช่น Fred and George are alike because they are twins. หรือ The law applies to everybody alike . นอกจากนี้ like ยังสามารถแปลได้ว่า "ชอบ" ( v.) และ "ตัวอย่างเช่น/เช่น/ดังเช่น" ( prep.) ได้อีกด้วย

32 . 1. very  2. more   3. much  4. so   5. rather

32. เฉลย 4 so ข้อนี้เมื่อแปลความหมายแล้วพบว่าต้องการวัดการใช้โครงสร้างประโยคในความหมายว่า ... มากเสียจนกระทั่ง ..... โดยตาม หลักการแล้วคือต้องใช้โครงสร้าง so + adj./adv. + that หรือ such + (adj.) + noun + that เมื่อพิจารณาประโยคแล้วพบคำประเภท adj. คือ severe and dangerous ดังนั้นจึงต้องใช้ so นำหน้า โดยโจทย์กล่าวว่า “ ไวรัสชนิดนี้รุนแรงและอันตรายมาก เสียจนกระทั่งได้มีการประกาศใช้กฎหมายในบางประเทศ.... ”

33 . 1. to use gauze mask  2. for using a gauze mask  
3. the using of gauze mask   4. the use of gauze masks   
5. the gauze mask with using

33. เฉลย 4 the use of gauze masks โจทย์ต้องการวัดการเรียงลำดับคำให้ถูกต้องตามความหมายและไวยากรณ์ โดยโจทย์ต้องการสื่อว่า บังคับ ใช้กฎหมายการ ใช้หน้ากากอนามัยอยู่ตลอดเวลา ข้อที่เหมาะสมกับความหมายและไวยากรณ์ที่สุดจึงเป็นข้อ 4 โดย the ทำหน้าที่เป็น article ของ คำนาม use (use ทำหน้าที่เป็นได้ทั้งคำนามและกริยาขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่มันปรากฏ ) และ มีคำนาม gauze masks ตามมา ซึ่งอยู่ ในรูปพหูพจน์ ถูกต้อง ตามความหมายที่ต้องการจะสื่อและ ถูกต้อง ตามกฏไวยากรณ์ที่ว่าคำนามนับได้ไม่สามารถอยู่โดด ๆ ได้ ต้องมี article หรือเติม s เสมอ ส่วนข้ออื่น ๆ ผิดความหมายและไวยากรณ์ทั้งหมด

34. 1. transcending  2. transcribing  3. transacting  4. transforming  
5. transmitting

34. เฉลย 5 transmitting ข้อนี้ต้องการวัดเรื่องการใช้คำศัพท์ให้เหมาะสม โดยโจทย์กล่าวถึงการแพร่หรือถ่ายทอดของไวรัสจากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่ง คำศัพท์ที่เหมาะสมกับการแพร่หรือถ่ายทอดของไวรัสจึงมีเพียง transmit เท่านั้น ส่วนข้ออื่น ๆ ไม่เหมาะสมกับบริบท คือ transcend แปลว่า เกิน/เหนือ transcribe แปลว่า คัดลอดหรือถ่ายทอดอักษร transact แปลว่า โอน/ทำธุรกิจการค้า/ดำเนินการ transform แปลว่า เปลี่ยนแปลง /เปลี่ยนรูปบางสิ่งหรือบางคน โดยเป็นการ เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง

35 . 1. for person to  2. from person to  3. of person for  
4. in person for  5. to person with

35. เฉลย 2 from person to ข้อนี้วัดเรื่องการใช้บุพบทคู่กัน กล่าวคือ from...to... ต้องใช้คู่กันเสมอ แปลว่า จาก ( คนหนึ่ง ) ไปยัง ( อีกคนหนึ่ง )

36. When you check your bill at the restaurant, you find you have been overcharged. You say to the waiter, “___________” 

1. Bill, please.  2. I want another bill.  3. You are cheating me.  
4. There is too much to pay.  5. I think there has been a mistake.

36.เฉลยข้อ 5 เพราะเป็นการตำหนิหรือบ่นอย่างสุภาพ (Polite Complaint)

37. One of your classmates has won a scholarship to study abroad. You congratulate her by saying, “___________”

1. I can’t believe it.  2. Very well. How did it go?  
3. Cheers. Better me than you.  

4. Amazing. I never expected so much.   
5. Well done. I’m very happy for you.

37.เฉลยข้อ 5 เพราะเป็นการแสดงความชื่นชมอย่างจริงใจ  คำตอบอื่นมีความหมายที่ไม่ถูกต้อง

38. A policeman fines to a woman who has just thrown an empty plastic bottle on the street. The woman say, “___________” 

1. Are you sure?   2. How can I help you?   3. What did I do wrong?  

4. What’s the matter with you?   5. Do you have a problem with me? 

38.เฉลยข้อ 3 เพราะผู้พูดไม่รู้ว่าทำอะไรผิดหรืออาจจะรู้ว่าทำผิดแต่แกล้งทำเป็นไม่รู้

39. Someone offers you a glass of wine. You say, “___________” 

1. Let me find out.  2. Sorry, I don’t drink.  3. That would be funny.  
4. I apologize for drinking. 5. Why you do this to me? 

39.เฉลยข้อ 2 เพราะเป็นการตอบปฏิเสธที่สุภาพ

40. A customer in an electronics store asks the salesperson if the camera can be used to take pictures of coral in the sea. The salesperson, wanting to make a sale, says, “_____” 

1. I’m not sure.  2. Always keep it handy.  3. Sure, it’s waterproof.  
4. Of course, it’s washable.  5. I doubt if it’s automatic. 

40.เฉลยข้อ 3 เพราะเป็นคำพูดชักจูงลูกค้าโดยคำว่า waterproof  ซึ่งแปลว่ากันน้ำได้

41. A police officer is chasing a robber and wants him to stop. He shouts, “________” 

1. Cool!   2. Stand up!   3. Sit down!  4. Freeze!  5. Calm down!  

41.เฉลยข้อ 4 เพราะเป็นคำสั่งเด็ดขาดของตำรวจ

42. Mother sees blood on your finger. She asks what happened. You say, “Oh, it’s not serious. ________” 

1. I’m about to faint.  2. The knife hurt me.  3. My finger is painful.  
4. I just cut myself.  5. Will I die, Mom? 

42.เฉลยข้อ 4 เพราะเป็นการพูดเพื่อให้ผู้ฟังเห็นว่าเป็นเรื่องไม่รุนแรงโดยใช้คำว่า just  ซึ่งแปลว่า  แค่นี้เอง หรือเล็กน้อย

43. A father is teaching his son that he must work hard and make sacrifices to be successful. He sums up his lecture by saying, “________” 

1. All work and no play make Jack a dull boy.   
2. Time and Tide waits for no man. 

3. Take time to smell the flowers.    
4. Curiosity killed the cat.     
5. No pain, no gain. 

43.เฉลยข้อ  5 เพราะเป็นสำนวนภาษาอังกฤษ ที่มีความหมายว่า ถ้าไม่ลำบากก็ย่อมไม่พบความสำเร็จ

44. Leaves and dead branches from your neighbor’s tree always fall in your backyard. You tell your neighbor, “________” 

1. Can you move away?  
2. I’m sick of your leaving.  
3. Could you trim the branches? 

4. You are welcome to take leaves.   
5. Will you please keep your tree to yourself?

44.เฉลยข้อ 3 เพราะเป็นการขอร้องอย่างสุภาพ

45.A mother is teaching her children about table manners and says, “________”       

1.You should eat vegetables.      
2.You should help me set the table.  

3.You should eat three meals a day.     
4.You should not chew with your month open.    

5. You should not invite your friends over for dinner.

45.เฉลยข้อ 4 เพราะเป็นการตักเตือนมารยาทในการรับประทานอาหาร  ส่วนข้อเลือกอื่นไม่ใช่มารยาท ในขณะรับประทานอาหาร

46. Mario wants to sell the car__________he bought last year.

 1. it   2. that    3. he    4. who 

46.เฉลยข้อ 2 that แปลว่า ที่, ซึ่ง Mario wants to sell the car that he bought last year. มาริโอต้องการขายรถที่ได้ซื้อไว้ในปีที่แล้ว that เป็น Relative pronoun ที่ใช้แทนคำนามที่เราต้องการกล่าวซ้ำ โดยใช้แทนคำนามที่ เป็นสัตว์หรือสิ่งของ ในที่นี้แทนคำว่า the car

47. While I__________to the radio, I heard a loud scream. 

1. listen   2. has listened   3. was listening   4. had listened   

47.เฉลยข้อ 3 was listening While I was listening to the radio, I heard a loud scream. ในขณะที่ฉันกำลังฟังวิทยุฉันได้ยินเสียงกรี๊ดร้องดัง เป็นประโยคที่กล่าวถึงเหตุการณ์ในอดีต โดยที่มีเหตุการณ์หนึ่งกำลังเกิดขึ้นและมีอีก เหตุการณ์หนึ่งเข้ามาแทรก “ฉันกำลังฟังวิทยุ” เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนและกำลังดำเนินอยู่ และ เหตุการณ์ที่เข้ามาแทรกคือ “ฉันได้ยินเสียงกรี๊ดร้องดัง” เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนและยังดำเนินอยู่ จะใช้ในรูป Past Continuous (รูปกริยา was/were + V-ing) และเหตุการณ์ที่เข้ามาแทรก จะใช้เป็น Past Simple รูปกริยา past (V2) ข้อ 1 listen (Present Simple) ข้อ 2 has listened (Present perfect) ข้อ 4 had listened (Past Perfect) 

48. She__________here since she was ten years old. 

1. lived   2. has lived   3. had lived   4. had been living 

48.เฉลยข้อ 2 has lived She has lived here since she was ten years old. หล่อนเคยอาศัยอยู่ที่นั่นตั้งแต่หล่อนอายุ10 ปี เป็นประโยคที่บอกเหตุการณ์หรือการกระทำที่เกิดขึ้นในอดีต แต่ยังคงต่อเนื่องมาจนถึง ปัจจุบัน นั่นคือ หล่อนอาศัยอยู่ที่นี่ตั้งแต่อายุ 10 ปี และปัจจุบันก็ยังอยู่ที่นี่ ดังนั้นต้องใช้ Present perfect รูปกริยา have, has + past participle (V3) และประโยคนี้ใช้ since เป็นตัวขยายบอกเวลา ซึ่ง since (แปลว่า ตั้งแต่) เป็นการบอกเวลา เริ่มต้นของเหตุการณ์ สิ่งที่ตาม since อาจระบุเป็น เวลา หรือ วัน หรือ เดือน หรือ ปี หรือ เป็นประโยคที่บอกถึงเหตุการณ์ที่บอกให้รู้ว่า เหตุการณ์หรือการกระทำที่กล่าวถึงนั้นเกิดขึ้น ตั้งแต่เมื่อใด โดยที่ประโยคที่ตามหลังsince ต้องอยู่ในรูป Past Simple รูปกริยา past (V2) ข้อ 1 lived (Past Simple) ข้อ 3 had lived (Past Perfect) ข้อ 4 had been living (Past Perfect Continuous) 

49. When the policeman__________, the thief had already gone. 

1. arrived   2. was arriving   3. has arrived   4. had arrived   

49.เฉลยข้อ 1 arrived When the policeman arrived , the thief had already gone. เมื่อตำรวจมาถึงโจรก็ไปแล้ว ในกรณีนี้ต้องใช้ Past Simple เพราะเหตุการณ์ที่ตำรวจมาถึงเกิดหลังจากเหตุการณ์ที่โจร ไปแล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและสิ้นสุดลงก่อนใช้ Past Perfect รูปกริยา had+ past participle (V3) เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและสิ้นสุดลงทีหลังใช้ Past Simple รูปกริยา past (V2) ข้อ 2 was arriving (Past Continuous) ข้อ 3 has arrived (Present Perfect) ข้อ 4 had arrived (Past Perfect)

50. She enjoys__________ very much. 

1. dance   2. dances   3. to dance   4. dancing 

50.เฉลยข้อ 4 dancing She enjoys dancing very much. เธอสนุกกับการเต้นรำมากๆ หลัง enjoy ต้องตามด้วย Gerund (V+ing) เท่านั้น 

51. Have you got __________cigarettes? Of course. 

1. any   2. a lot   3. some   4. little 

51.เฉลยข้อ 1 any บ้าง,จำนวนหนึ่ง Have you got any cigarettes? Of course. คุณมีบุหรี่บ้างไหม? มี any บ้าง,จำนวนหนึ่ง ใช้นำหน้าคำนามนับไม่ได้และคำนามนับได้พหูพจน์ ใช้ในประโยค คำถามและประโยคปฏิเสธ ข้อ 2 must ต้อง ข้อ 3 some บ้าง,จำนวนหนึ่งใช้กับคำนามนับไม่ได้และคำนามนับได้พหูพจน์ ใช้ในประโยคบอกเล่า ข้อ 4 little ปริมาณเล็กน้อย (little + นามนับไม่ได้) 

52. There are two men in the street. __________of them have a gun in their hands. 

  

1. All   2. Every   3. Both   4. A lot of

52.เฉลยข้อ 3 Both ทั้งสอง There are two men in the street. Both of them have a gun in their hands. มีผู้ชายสองคนอยู่บนถนนพวกเขาทั้งสองคนมีปืนอยู่ในมือ ข้อ 1 All ทั้งหมด ข้อ 2 Every ทุกๆ ข้อ 4 A lot of จำนวนมาก 

53. If I __________ to the party last night, I would have sung and danced with my friends. 

1. go   2. went   3. had gone   4. have gone 

53.เฉลยข้อ 3 had gone If I had gone to the party last night, I would have sung and danced with my friends. ถ้าฉันไปงานเลี้ยงเมื่อคืนนี้ ฉันก็จะได้ร้องเพลงและเต้นรำกับเพื่อนๆ ประโยคเป็น If clause Type 3 ใช้พูดถึงเหตุการณ์ที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว จากประโยคนี้ แสดงว่าผู้เขียน(I)ไม่ได้ไปงานเลี้ยงเมื่อคืนนี้ก็เลยไม่ได้ร้องเพลงเต้นรำกับเพื่อนๆ โครงสร้างประโยค If + Past Perfect (had+V3) , would + have + past participle (V3) ข้อ 1 go (Present Simple) ข้อ 3 went (Past Simple) ข้อ 4 have gone (Present Perfect)

54. When I saw him yesterday, he was __________on a chair.  

1. sit  2. sits   3. sitting   4. sat

54.เฉลยข้อ 3 sitting When I saw him yesterday, he was sitting on a chair. ตอนที่ฉันเห็นเขาเมื่อวาน เขากำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ เป็นประโยคที่กล่าวถึงเหตุการณ์ในอดีต โดยที่มีเหตุการณ์หนึ่งกำลังเกิดขึ้นและมีอีก เหตุการณ์หนึ่งเข้ามาแทรก “เขากำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้” เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนและกำลังดำเนินอยู่ และ เหตุการณ์ที่เข้ามาแทรกคือ “ฉันเห็นเขา” เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนและยังดำเนินอยู่ จะใช้ในรูป Past Continuous (รูปกริยา was/were + V-ing) และเหตุการณ์ที่เข้ามาแทรก จะใช้เป็น Past Simple รูปกริยา past (V2) 

55. We have been here __________two months. 

1. in   2. before   3. since   4. for 

55.เฉลยข้อ 4 for We have been here for two months. พวกเราอยู่ที่นี่เป็นเวลาสองเดือนแล้ว for แปลว่า เป็นเวลา ใช้บอกระยะเวลาที่เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น ข้อ 1 in ใน ข้อ 2 before ก่อน ข้อ 3 since ตั้งแต่ 

56. Sarah and Nawinta __________ want a big wedding. 

1. isn’t   2. don’t   3 .aren’t   4. doesn’t 

56.เฉลยข้อ 2 don’t Sarah and Nawinta don’t want a big wedding. Sarah และ Nawinta ไม่ต้องการงานแต่งงานแบบใหญ่โต การทำประโยคให้เป็นปฏิเสธ ทำได้โดย นำ not ไปวางไว้หลังกริยาช่วย แต่ประโยคนี้ไม่มี กริยาช่วย มี want เป็นกริยาแท้ของประโยคแล้ว กรณีที่ประโยคไม่มีกริยาช่วย ต้องนำ Verb to do มาช่วย ประโยคนี้พูดถึงข้อเท็จจริง ใช้โครงสร้าง Present Simple (รูปกริยา Verb 1) และมี Sarah and Nawinta เป็นประธานพหูพจน์ดังนั้น Verb to do ที่นำมาช่วยจึงต้องใช้ do มาช่วยในการทำเป็นปฏิเสธ

57. The post office usually __________ at 5.30 pm. 

1. close  2. closes  3. closed  4. closing 

57.เฉลยข้อ 2 closes The post office usually closes at 5.30 pm. โดยปกติที่ทำการไปรษณีย์ปิดห้าโมงครึ่ง ประโยคนี้เป็น Present Simple สังเกตจาก usually ดังนั้น กริยาต้องเป็น Verb 1 และ The post office เป็นประธานเอกพจน์บุรุษที่ 3 close จึงต้องเติม s เป็น closes 

58. If you heat water, it__________. 

1. boil  2. boils  3. boiled  4. boiling 

58.เฉลยข้อ 2 boils If you heat water, it boils. ถ้าคุณต้มน้ำ มันก็เดือด เป็น If Clause Type 1 ที่ใช้กับเหตุการณ์ที่เป็นความจริง โครงสร้าง If + Present Simple (V1), Present Simple (V1) 

59. Those shirts __________expensive. I don’t need to buy them. 

1. is  2. are  3. has  4. have 

59.เฉลยข้อ 2 are Those shirts are expensive. I don’t need to buy them. เสื้อเชิ้ตเหล่านั้นราคาแพงจัง ฉันไม่อยากซื้อมันเลย ตามโครงสร้าง Sub.+Verb to be + Adj. Those shirts เป็นประธานพหูพจน์จึงต้องใช้ are 

60. My mom __________ coffee every morning. 

1. drink  2. don’t drink   3. doesn’t drink   4. have drunk

60.เฉลยข้อ 3 doesn’t drink My mom doesn’t drink coffee every morning. แม่ของฉันไม่ดื่มกาแฟทุกเช้า สังเกตจากคำว่า every morning บอกให้รู้ว่า ประโยคเป็น Present Simple รูปกริยา V1 My mom เป็นประธานเอกพจน์บุรุษที่ 3 กริยาต้องเติม s (does ก็คือ do เติม es)

61. This is not an easy question __________ answer. 

1. to  2. for  3. that  4. with 

61.เฉลยข้อ 1 to This is not an easy question to answer. คำถามนี้มันไม่ง่ายที่จะตอบ เป็นการใช้ to + infinitive ที่รูปประธานกลายเป็นกรรม ของ to infinitive คำนาม หรือ คำสรรพนาม ซึ่งทำหน้าที่เป็นประธานของรูป linking verb (กริยาที่ใช้เชื่อม ประโยค) + คำคุณศัพท์ (adjective) สามารถใช้เป็นกรรม (objective) ของกริยา to infinitive ที่ตามมา ในภาคส่วนเติมเต็ม (complement) ของประโยค เช่น Science programmes are so interesting to watch. รายการวิทยาศาสตร์มันน่าสนใจที่จะดู These nuts are good to eat ถั่วเหล่านี้มันดีที่จะกิน 

62. If the teacher__________too fast, students won’t understand. 

1. explain  2. explains  3. explained  4. had explained 

62.เฉลยข้อ 2 explains If the teacher explains too fast, students won’t understand. ถ้าครูอธิบายเร็วเกินไป นักเรียนก็จะไม่เข้าใจ (won’t = will not) เป็น If Clause ที่ใช้กับเหตุการณ์ที่เป็นเหตุเป็นผลกันและเป็นจริงได้ If + Present Simple (V1), Future Simple (will+ V1) 

63. Some__________ feel frightened of the dark. 

1. boy  2. child  3. children  4. person 

63.เฉลยข้อ 3 children Some children feel frightened of the dark. เด็กๆบางคนรู้สึกตกใจกลัวความมืด some หมายถึง จำนวนหนึ่ง ใช้นำหน้าคำนามนับไม่ได้ และคำนามนับได้พหูพจน์ ใช้ในประโยคบอกเล่า ในที่นี้ children เป็นคำนามนับได้พหูพจน์ ส่วน boy, child และ person เป็นคำนามนับได้เอกพจน์

64. This is my best friend__________always helps me. 

1. who  2. that  3. which  4. whom 

64.เฉลยข้อ 1 who หมายถึง ผู้ซึ่ง, ผู้ที่ This is my best friend who always helps me. นี้คือเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันผู้ที่คอยช่วยเหลือฉันเสมอมา who เป็น Relative pronoun ที่ใช้แทนคำนามที่เราต้องการกล่าวซ้ำ โดยใช้แทนคำนามที่ เป็นคน ในที่นี้ แทน my best friend that และ which ใช้แทนสัตว์ สิ่งของ ส่วน whom ใช้แทนคนในกรณีที่เป็นกรรม

65. Yaya is__________ beautiful than Tukky. 

1. as   2. more   3. most   4. the most

65.เฉลยข้อ 2 more Yaya is more beautiful than Tukky. ญาญ่าสวยกว่าตุ๊กกี้ จากประโยคที่กำหนดเป็นการเปรียบเทียบขั้นกว่า สังเกตได้จากคำว่า than Comparative การเปรียบเทียบขั้นกว่า เป็นการเปรียบเทียบสิ่งสองสิ่ง ประโยคเปรียบเทียบ ขั้นกว่า คำคุณศัพท์ที่ใช้เปรียบเทียบต้องเปลี่ยนเป็น คำคุณศัพท์ขั้นกว่า (Comparative Adjective) โดยการเติม -er หลังคำคุณศัพท์ที่มี 1-2 พยางค์ (มีรายละเอียดปลีกย่อยอีก ควรศึกษาเพิ่มเติม) และใช้ more วางหน้าคำคุณศัพท์ที่มีสามพยางค์ขึ้นไป ดังเช่นข้อนี้ beautiful ต้องใช้ more ส่วน as ใช้เปรียบเทียบเท่ากัน และ the most ใช้เปรียบเทียบขั้นสุด

66.After his several attempts to do his best his position, he decided to embark on a new career.

1.Cancel  2.Begin   3.Choose  4.improve  5.Change

66.เฉลยข้อ 2 begin คำว่า embark on แปลว่า การเริ่มต้นสิ่งใหม่ (start/begin) โจทย์กล่าวว่า "หลังจากความพยายามหลายครั้งที่จะทำงานในตำแหน่งของเขาให้ดีที่สุด เขาก็ตัดสินใจที่จะ'เริ่ม'งานใหม่" 1. cancel ยกเลิก 2. begin เริ่มต้นใหม่ 3. choose เลือก 4. improve พัฒนา 5. change เปลี่ยน เคล็ดลับ บริบทบอกใบ้ให้เราทราบตรงตำแหน่งที่บอกว่า "หลังจากความพยายาม'หลายครั้ง'ที่จะทำงานในตำแหน่งของเขาให้ดีที่สุด" ส่วนนี้แสดงให้เห็นว่า พยายามมาหลายครั้งแล้ว พอ เหนื่อย เริ่มงานใหม่เถอะ

67.As I looked up the mountain, I knew it would be a daunting task to reach the peak.

1.difficult   2. dangerous   3.desirable  4.delightful   5. definite

67.เฉลยข้อ 1 difficult คำว่า daunting แปลว่า สิ่งที่ยากหรือท้าทาย โจทย์กล่าวว่า "เมื่อมองขึ้นไปบนภูเขา ฉันก็รู้ทันทีว่ามันจะต้องเป็นสิ่งที่'ยาก'ที่จะขึ้นไปถึงยอดของมัน"

1. difficult ยาก

2. dangerous อันตราย

3. desirable เป็นที่น่าพ่อใจ

 4. delightful น่าปิติยินดี

5. definite แน่นอน

68.Since his mother's death, tom's been meaning to clean out the clutter in his bedroom. 

1. closet 2. dirt 3. drawer  4. curtain  5. mess

68.เฉลยข้อ 5 mess คำว่า clutter ในประโยคนี้แปลว่า สิ่งที่รก/ของที่วางกองระเกะระกะ  โจทย์กล่าวว่า "ตั้งแต่การจากไปของแม่เขา ทอมก็ตั้งใจที่จะทำความสะอาด'สิ่งที่รก/ของที่กองระเกะระกะ'ในห้องนอนของเขาเอง"

1. closet ตู้

2. dirt ฝุ่น

3. drawer ลิ้นชัก

4. curtain ม่าน

5. mess สิ่งที่รก/ของที่กองระเกะระกะ

69.We completely depleted our saving account when we bought our new house in bangkok last month.   

1. earned  2. saved    3. collected 4. emptied 5. shared

69.เฉลยข้อ 4 emptied คำว่า depleted ในประโยคนี้แปลว่า หมดสิ้น/ไม่เหลือ ซึ่งก็มีความหมายเหมือนกับคำว่า emtied (empty) ที่แปลว่า ว่างเปล่า/ไม่เหลือ  โจทย์กล่าวว่า "เราใช้เงินในบัญชีออมทรัพย์ไปจน'หมด/ไม่มีเหลือ'เมื่อเราซื้อบ้านหลังใหม่ในกรุงเทพเมื่อเดือนที่ผ่านมา" 1. earned ได้รับ 2. saved เก็บไว้ 3. collected รวบรวมไว้ 4. emptied ว่างเปล่า/ไม่เหลือ 5. shared แบ่งปัน ข้อนี้บริบทชัดเจนมาก คือ ซื้อบ้านในกรุงเทพ ซึ่งแค่นี้ก็น่าจะรู้แล้วว่ามันแพงหูดับตับไหม้

 70.After the devastating fire in june, a number of buildings around the area were still smouldering months afterwards.   

1. opening 2. operating3. smoking 4. exploding  5. melting    

70.เฉลยข้อ 3 smoking คำว่า smouldering ในประโยคนี้แปลว่า มีควัน/คุกรุ่น  โจทย์กล่าวว่า "หลังจากไฟไหม้ครั้งร้ายแรงในเดือนมิถุนายน ตึกจำนวนมากในบริเวณนี้ก็ยังคงมีควัน/คุกรุ่นอยู่หลายเดือนหลังจากนั้น" 1. opening เปิด 2. operating ดำเนินการ 3. smoking มีควัน 4. exploding ระเบิด 5. melting ละลาย

71.exercise can help you relax, boost your confidence and better_____, in addition to the physical benefits of an active_____ 

1. mood, lifestyle  2. strength, person 3. body, learning  4. thinking, sportswear

71.เฉลยข้อ 1. mood อารมณ์, lifestyle วิถีชีวิต  โจทย์กล่าวว่า "การออกกำลังกายสามารถช่วยให้คุณผ่อนคลาย เพิ่มความมั่นใจ และทำให้ ___อารมณ์_____ ดีขึ้น นอกเหนือไปจากประโยชน์ทางด้านร่างกายของ ____วิถีชีวิต ____ แบบกระฉับกระเฉง"

2. strength ความแข็งแรง, person บุคคล

3. body ร่างกาย, learning การเรียนรู้

4. thinking การคิด, sportswear ชุดกีฬา

5. behavior พฤติกรรม, job งาน

72.One way to learn english is to watch television shows. you can hear english the way it is_____ spoken and learn useful slang and______ language.

1. appropriately, universal   2. commonly, foreign  3. naturally, informal  4. widely, written   5. specifically, natural  

72.เฉลยข้อ3. naturally อย่างเป็นธรรมชาติ, informal ที่ไม่เป็นทางการ  โจทย์กล่าวว่า "วิธีหนึ่งในการเรียนภาษาอังกฤษก็คือการดูรายการโชว์ทางทีวี คุณจะสามารถได้ยินภาษาอังกฤษในแบบที่ถูกพูด ___อย่างเป็นธรรมชาติ_____ และเรียนรู้คำสแลงและภาษา ___ที่ไม่เป็นทางการ_____"

1. appropriately อย่างเหมาะสม, universal สากล

2. commonly อย่างธรรมดา, foreign ต่างชาติ

4. widely อย่างกว้างขวาง, written ที่เขียน

5. specifically โดยเฉพาะ, natural ที่เป็นธรรมชาติ

73.fruit and vegetables are rich sources of natural fiber, vitamins and other _____ that your body needs to ______. 

1. compounds, frequently  2. minerals, properly  
3. factors, systematically 4. ingredients, effectively 
5. genes. powerfully 

73.เฉลยข้อ 2. minerals แร่ธาตุ, properly อย่างเหมาะสม  โจทย์กล่าวว่า "ผลไม้และผักอุดมไปด้วยแหล่งใยอาหารทางธรรมชาติ วิตามิน และ ____แร่ธาตุ____ อื่น ๆ ซึ่งร่างกายของคุณจำเป็นต้องใช้เพื่อที่จะทำงานได้ ___อย่างเหมาะสม_____ "

1. compounds สารประกอบ, frequently บ่อย ๆ

3. factors ปัจจัย, systematically อย่างเป็นระบบ

4. ingredients ส่วนผสม (ใช้กับการประกอบอาหาร), effectively อย่างมีประสิทธิภาพ

5. genes ยีน, powerfully อย่างมีพลัง

74.bangkok, the city of angels, offers visitors anything they could____: lively nightlife, unlimited shopping option and a_____ of activities and attractions.

1.receive, mixture  2. buy, collection  3. see, selection.  4. find, cluster. 5. expect, variety  

74.เฉลยข้อ 5. expect คาดหวัง, variety หลากหลาย โจทย์กล่าวว่า "กรุงเทพมหานคร เมืองสวรรค์ มอบสิ่งใด ๆ ก็ตามให้กับผู้เยี่ยมชม/นักท่องเที่ยวตามแต่ที่พวกเขาจะสามารถ ____คาดหวัง____ ไว้ ไม่ว่าจะเป็นชีวิตยามค่ำคืนที่แสนคึกคัก ตัวเลือกในการช็อปปิ้งที่ไม่จำกัด รวมถึงกิจกรรมและสิ่งดึงดูดใจที่ ___หลากหลาย_____ "

1. receive ได้รับ, mixture ผสมผสาน

2. buy ซื้อ, collection ที่รวมกันเป็นกลุ่ม/ชุด

75.once you begin to plan your spending, you will gain____over it and you will be able to_____some money.   

1.profit, make 2. pleasure, spend  3. experience, count  4.control, save 5. access, lend   

75.เฉลยข้อ 4. control ควบคุม, save เก็บ/ออม โจทย์กล่าวว่า "ทันทีที่คุณเริ่มต้นวางแผนการใช้จ่าย คุณจะสามารถ ____ควบคุม____ มันได้ และคุณจะสามารถ ____เก็บ/ออม____ เงินได้ "  1. profit กำไร, make สร้าง  2. pleasure ความสุข/ความพอใจ, spend ใช้  3. experience ประสบการณ์, count นับ  5. access เข้าถึง, lend ให้ยืม

    

76.  Sometimes I think  ……….A………, but I’ve ………B…….. a lot of things.       

A.   1. I am almost so patient         2. I am almost too patient          
3. I am really almost patient          4. I am almost such patient             5. I am nearly almost patient     

B.   1. also that found that patience helps in me    2. also found that patience helps in me           3. also found that patience helps me in    4. found also that patience helps me in    5. found that patience helps me also in  

76.เฉลยข้อ A 2 เพราะการใช้ too + adj. เช่น too patient ใช้เพื่อขยายความหมายของ adj. นั้นๆ เพื่อบอกว่าอดทนมากเกินไป  B 3 เพราะ also เป็น adverb (คำกริยาวิเศษณ์) คือ คำที่ใช้ขยาย (Modify) คำกริยา, คำคุณศัพท์ และคำกริยาวิเศษณ์ด้วยกันเอง เพื่อให้ได้ความหมายชัดเจนยิ่งขึ้น ในที่นี้ขยาย กริยา found สำหรับการเรียง helps me in ตามหลักของกรรม me ตามหลังกริยา helps ส่วน in เป็น preposition ที่สอดคล้องกับ  a lot of things

 77. The contest starts ……..A……….and then yells, screams, jumps up and down, puffs, blows,       whistles, or ……….B………to incite the frog to jump.        

A    1. at the “jockey” positions his or her frog          
2. as the “jockey” positions his or her frog        
3. how the “jockey” positions his or her frog    
4. while the “jockey” positions his or her frog       
5. when the “jockey” positions his or her frog        

B     1.does where else is necessary        
2.do whatever else is necessary   
3.do something else is necessary            
4.  does whatever else is necessary    
5.  did whatever else was necessary         

77.เฉลยตอบข้อ A 5 เพราะ when เป็น time connection ที่ใช้กับเวลา B 4 เพราะประธานของประโยค คือ The contest ซึ่งเป็น singular จึงใช้กริยา does และสอดคล้องกับกริยาที่มีในข้างต้น ซึ่งเป็น parallel verbs ส่วนการใช้ whatever  (อะไรก็ตาม) นั้น whatever เป็นคำนำหน้า noun clause ซึ่งในที่นี้ทำหน้าที่เป็นกรรมของ คำว่า does

78.   ……….A……….. some form of silence. ……..B……….silence are dramatically different in         different cultural groups.         

A.  1. Most people throughout the world experience  
2. Most experience people throughout the world  
3. People throughout the world most experience     
4. Throughout the world, most experience people  
5. The most people throughout the world experience          

B.  1.Also, people’s attitudes towards   
2.  Whereas, people’s attitudes towards   
3.  However, people’s attitudes towards    
4.  Therefore, people’s attitudes towards           
5.  As a result, people’s attitudes towards    

78.เฉลยข้อ A 1 เพราะ Most people ตรงกับหลักการใช้ Most + Noun เพื่อบอกจำนวนของสิ่งที่กล่าวถึง ส่วน experience ทำหน้าที่เป็น กริยา จึงต้องตามหลังประธาน  Most people throughout the world  B 3 เพราะ However (อย่างไรก็ตาม) เป็น Conjunctive Adverb ที่ใช้เชื่อมประโยคโดยขึ้นประโยคใหม่ที่แสดงความขัดแย้งกันกับประโยคแรก

79.  Many parents think that ……….A……… difficult as maths, it is OK. ………B………., others      have asked the States Education Department to do something about the matter.       

 A.   1. the book helps students to understand something as     
2. if the book helps students to understand something as          
3. how  the book helps students to understand something as           
4. whether the book helps students to understand something          
5. unless the book helps students to understand something    

 B. 1. Finally 2. Though  3. Whereas  4. Moreover  5. On the other hand 

 79.เฉลยข้อ A 2 เพราะ if เป็นการพูดถึงเงื่อนไขซึ่งตามหลังด้วยเครื่องหมาย ( , ) comma และอนุประโยค   (it is OK.)  B 5 เพราะ on the other hand มักใช้พูดถึงความขัดแย้งกันของสถานการณ์ ในขณะที่คำว่า Though แม้จะใช้เชื่อมสิ่งที่ขัดแย้งกันแต่จะอยู่กลางประโยคในรูปดังนี้ He still argues, though he knows he’s wrong.

80.Some people ………A……..and songs of birds. …….B…….. and take notes on their habit.      

A.  1. bird watching just to enjoy the beauty      

2. go bird watching just to enjoy the beauty   

3. going bird watching just to enjoy the beauty 

4. who go bird watching just to enjoy the beauty      

5. who go watching bird just to enjoy the beauty       

B.   1.Others list the birds they see  

2.Other lists the birds they see  

3.Another lists the birds they see    

4. Someone lists the birds they see   

5. The others list the birds they see   

80.เฉลยข้อ A 2 เพราะ some people ทำหน้าที่เป็นประธานของประโยค จึงต้องการ verb มารองรับ  B 1 เพราะ some และ others เป็น pronouns ที่ใช้สอดคล้องกันโดยมีการแบ่งนามออกเป็น 2 กลุ่ม และให้ some แสดงถึงนามกลุ่มหนึ่งใช้ได้ทั้งคำนามได้และนับไม่ได้ others หมายถึง นามอีกกลุ่มหนึ่ง

81.  ……..A………., with rules from the pharaohs to Soviet leaders employing astrologers       and mystics …….B…….., and it is an interest that refuses to die out.      

A.  1. Humankind has always interested in divination 

2. Humankind always has interested in divination          

3. Humankind has been always interested in divination          

4. Humankind always has been interested in divination          

5. Humankind has always been interested in divination       

B.   1. helps them make important decisions    
2. help them make important decisions                

3. helping them make important decisions      
4. to help them make important decisions          

5. which helps them make important decisions     

81.เฉลยข้อ A 5 เพราะเป็นการใช้ Present Perfect Tense โครงสร้าง Subject + have/has + past participle (V.3) การกระทำหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต ซึ่งยังคงส่งผลถึงปัจจุบัน  B 4 เพราะ to help เป็น The Infinitive of Purpose วลีที่แสดงจุดประสงค์) รูปแบบคือ  To + Verb หรือ Verb Phrase (กริยาวลี หรือ กลุ่มคำที่มีกริยาเป็นคำหลัก)

82.Crystal ball gazing seems to be a dying art, maybe ……..A……… but there are still       aficionados who claim that ……..B…….. .      

A.   1. because there are so many old gypsy women at fairgrounds        2. because there are also many old gypsy women at fairgrounds          

3. because there aren’t so many old gypsy women at fairgrounds          

4. because there will be so many old gypsy women at fairgrounds        5. because there won’t be so many old gypsy women at fairgrounds       

B.   1. the most guaranteed way is to predict the future          

2. the most way of predicting the future is guaranteed               

3. it is the most guaranteed way of predicting the future          

4. it is guaranteed the most way of predicting the future          

5. the way of predicting the future is the most guaranteed  

82.เฉลยข้อ A 3 เพราะการใช้รูปปฏิเสธ aren’t so many (ไม่มีมากนัก) สอดคล้องกับประโยคต้น  B 3 เพราะ It  แทน Crystal ball gazing และ ใช้ Superlative Degree เพื่อการเปรียบเทียบขั้นสูงสุดซึ่งใช้สำหรับการเปรียบเทียบตั้งแต่ 3 คน หรือ 3 สิ่งขึ้นไป หรืออาจเป็น ที่สุดในหมู่ เหล่า คณะ พวก

83. Sharing an apartment with people of other cultures is an enriching experience. …….A……..      some problems because people from different cultures …….B……. to misunderstandings      or conflicts.      

A.1. Sometimes leads     2. That it can sometimes lead      
3. When it can sometimes lead     4. So that it can sometimes lead        

5. However it can sometimes lead       

B.   1.  has  different customs and expectations      
2.  have different customs and expectations      
3.  having different customs and expectations   
4.  will be different customs and expectations        
5.  will have different customs and expectations        

83.เฉลยข้อ A 5 เพราะ However (อย่างไรก็ตาม) เป็น Conjunctive Adverb ที่ใช้เชื่อมประโยคโดยขึ้นประโยคใหม่ที่แสดงความขัดแย้งกันกับประโยคแรก  B 2 เพราะประธานของประโยค people from different cultures เป็น Plural และ ถ้าพูดถึงสิ่งที่เป็น fact กริยาของประโยคต้องใช้รูปช่องที่ 1 คือ have

84. Although dinner is the largest meal of the day in some countries, ……..A…….. too much      heavy or fried food, as this can make you put on weight and ……..B……… .      

A.    1. you try to avoid eating   2. you would have tried to eat   
3. you should try to avoid eating    4. you  were trying to avoid eating  5. you shouldn’t try to avoid eating       

B.   1. affect the quality of your sleep      
2. effect the quality of your sleep    

3. affects the quality of your sleep     
4. affecting the quality of your sleep               

5. effecting the quality of your sleep

84.เฉลยข้อ A 3 เพราะเป็นการพูดแนะนำ และเพื่อให้สอดคล้องกับอนุประโยคที่ว่า Although dinner is the largest meal of the day in some countries  B 1 เพราะ มี and  เป็นคำเชื่อมระหว่างคำกริยา make เพราะฉะนั้นหลัง and จึงต้องเลือกใช้ affect เหมือนกับคำว่า  make ซึ่งอยู่ในรูปของ based form  ข้อแตกต่างระหว่าง- effect (noun) ปัจจัยอย่างหนึ่งที่ส่งผลให้ปัจจัยอีกอย่างหนึ่งเปลี่ยนแปลง - affect (verb) ส่งผลให้บางอย่างเกิดการเปลี่ยนแปลง

85. Together with six other volunteers from Save the Seas, ………A……, Melanie has been       working with an Indonesian marine research team …….B……. .      

A.   1. a nonprofit charity organization          

2. a nonprofit charitable organization          

3. is a nonprofit charitable organization          

4. of a nonprofit charitable organization          

5. that is a nonprofit charitable organization       

B.   1. surveys the ocean environment           

2. surveyed the ocean environment                  

3. surveying the ocean environment               

4. to survey the ocean environment          

5. has surveyed the ocean environment   

85.เฉลยข้อ A 2 เพราะทำหน้าที่เป็นนามซ้อนนามที่อยู่ข้างหน้า (in apposition) และระหว่างนามข้างหน้า กับนามที่ไปซ้อนตามหลังจะต้องใส่เครื่องหมาย Comma (,) คั่นเอาไว้ทุกครั้ง ในกรณีนี้   a nonprofit charitable organization ซ้อนในส่วนที่เป็นประธาน คำว่า Save the Seas  B 4 เพราะ ใช้ to เพื่อแสดงวัตถุประสงค์

86. The first baseball caps …….A……, the Knickerbockers, around 1840, and they were       made of straw. Today they ……..B…….. and worn by people from all walks of life.       

A.  1. had worn  by the New York team   
2. had made by the New York team          

3. were sold by the New York team          
4. were worn by the New York team          

5. were made by the New York team        

B.  1.  made of different fabrics     2.  are made of  different fabrics    3.  have made of different fabrics  4. are made from different fabrics  5.  have been made of different fabrics

86.เฉลย ข้อ A 4 เพราะ The first baseball caps ถูกสวมใส่โดย the Knickerbockers ซึ่ง เป็นชื่อทีมของ baseball คงจะไม่ผลิตด้วยตนเอง B 2 เพราะใช้ made of เพราะมีคำว่า frabrics เป็นตัวบ่งบอกว่าทำด้วยวัสดุอะไรข้อแตกต่างระหว่าง made of และ made from - made of แสดงว่าทำมาจากวัสดุอะไร แล้วยังเห็นรุปร่างวัสดุนั้นอยู่ ไม่มีการแปรรูป เช่น The table is made of wood - make from จะใช้เมื่อมีการแปรรูป เช่น The wine is made from grape.

87.  ………A……... to speak Chinese when I was a kid. My dad spoke Chinese, and …….B…… 

A.   1. I really wish learning         2. I really wish I learned          
3. I really wish I can learn          4. I really wish I had learned        
5. I really wish I have learned       

B.    1. he writes it too   2. it is spoken too   3. he can write it too     
4. he could write it too  5. he has written it too   

87.เฉลยข้อ A 4 เพราะเป็นการแสดงความปราถนาสิ่งที่ไม่อาจเป็นจริงขึ้นมาได้ และตรงกันข้ามกับความเป็นจริงในอดีต ในรูปของ Wish+ Past Perfect  B 4 เพราะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต โดยมีคำว่า when I was a kid  เป็นตัวบ่งบอก  เพราะฉะนั้นจึงใช้ could

88.  ……..A……. how important Chinese was going to be in the future, ……..B……… .      

A.   1. If your dad knew          2. If your dad knows          
3. If your dad had known        4. If your dad was known       
5. If your dad hadn’t known       

B.   1. he will have taught you the language       
2. he would have taught you the language          
3. he was going to teach you the language        
4. he would have been teaching you the language  
5. he would very much like to teach you the language  

88.เฉลยข้อ A 3 เพราะเป็น  If-clause Type 3 ใช้กับเหตุการณ์สมมุติที่ตรงกันข้ามกับความเป็นจริงในอดีต โครงสร้างคือ If+ Past Perfect, S+would+have+V3  B 2 เพราะเมื่อข้อ A  เป็นส่วนของ If-clause แล้วเพราะฉะนั้น ข้อ B จึงเป็นส่วนของ main clause ที่สอดคล้องตามโครงสร้าง If+ Past Perfect, S+would+have+V3

89.  ………A…….., they walk leisurely ………B…….. .         

A.   1. Quickly crossing the street       
2. Instead of quickly cross the street          

3. Instead of crosses the street quickly       
4. Instead of crossing the street quickly          

5. Instead of  quickly crosses the street       

B.  1. as they have all the time in the world      
2. as if they had all the time in the world             

3. as if they have all the time in the world        
4. as if  they hadn’t all the time in the world          
5. as if they have had all the time in the world   

89.เฉลยข้อ A 4 เพราะ in stead of  เป็น preposition (บุพบท) ที่ตามด้วย gerund  B 2 เพราะ as if (ราวกับว่า ใช้กับเหตุการณ์ที่ไม่สามารถเป็นจริงได้ต้องอยู่ในรูปของ past tense)

90.  ……..A……. is when there’s someone who is tailgating – you know, when someone is        driving right up to your back bumper. ……..B…….. crash into the rear of my car.      

A.  1.  What annoys me the most in traffic             
2.  The most annoying for me in traffic          
3.  Which annoys me the most in traffic                 
4.  What annoyed me the most in traffic          
5.  What is the most annoying me in traffic       

B.  1. I feel like slamming on the breaks and letting them            

2. The feeling of slamming on the breaks and let them          

3. Feeling like slamming on the breaks and letting them           

4. I feel to like slamming on the breaks and letting them                 

5. I have a feeling of slamming on the breaks and let them     

90.เฉลยข้อ A 1 เพราะจากประโยคข้างต้น what annoys me เป็น noun clause อยู่หน้าประโยค ทำหน้าที่เป็นประธานของประโยค  B 1 เพราะ feel like ตามด้วย gerund

91.  ………A…….., he called me for the seventh time that morning to ask ……..B…….. .      

A.   1. Exciting to his new “toy”      
2. Excited with his new “toy”

3. To be excited with his new “toy”  
4.  Being excited with his new “toy”               

5.  To have been excited with his new “toy”       

B.   1.  were there any messages for him       
2.  there were any messages for him            

3.  if there were any messages for him          
4.  that there were any messages for him               

5.  unless there were any messages for him         

91.เฉลยข้อ A 2 เพราะ excited เป็นการแสดงความรู้สึกของบุคคล  B 3 เพราะเป็น Indirect question ในกรณีที่ไม่มีคำแสดงคำถาม (what, who, …) เมื่อเพิ่มข้อความข้างหน้า do you know, tell me, … จะต้องใช้ if เข้ามาเพื่อเป็นคำเชื่อมระหว่างข้อความนำกับประโยคในคำถามเดิม

92. Nobody knows ………A…….., but police believe ……..B…….. for suitable food to take      back to their planet.      

A.    1. the aliens were doing on earth             
2. what did the aliens do on earth                 

3. that the aliens were doing on earth             
4. what were the aliens doing on earth                      
5. what the aliens were doing on earth            

B.   1. they could search            2. they could be searched          
3. they could be searching         4. they might be trying to search        

5. they could have been searching         

92.เฉลยข้อ A 5 เพราะเป็น Noun Clauses ที่ขึ้นต้นด้วย Wh-Words มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Indirect  wh-questions  และแม้ว่า noun clauses เหล่านี้จะขึ้นต้นด้วยคำแสดงคำถาม แต่ลำดับคำ (word order) ในอนุประโยคนี้ จะเป็นลำดับคำของประโยคบอกเล่า B 5 เพราะ S+ could +have been+ving  แสดงถึงเหตุการณ์ที่เริ่มต้นในอดีตดำเนินเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน โดยมีคำว่า knows และ believe  เป็นตัวบ่งบอกว่าเป็นปัจจุบัน

93. Orozco is renowned …….A……. on the wall of ………B……..in Mexico .      

A. 1. to the magnificent murals he painted      
2. for the magnificent murals he painted  

3. by the magnificent murals he painted          
4. of the magnificent murals he was painting       

5. as the magnificent murals he was painting       

B. 1. the Palace of Fine Art    2. the Palace with Fine Art    
3. the Palace which Fine Art   4. the Palace where Fine Art  
5. the Palace in which Fine Art

93.เฉลยข้อ A 2 เพราะ renowed ตามด้วย preposition “for”  B 1 เพราะ The Palace of Fine Arts  เป็นชื่อเฉพาะของสถานที่สำคัญ คือสถานที่ที่ใช้จัดแสดงนิทรรศการศิลปะ Panama–Pacific International Exposition ในปี 1915

94.  I lost my father ………A…….., and I suddenly realized that ………B…….. the same thing       happen to my kids.               

A.    1. when I was a young boy       2. what a young boy I was       
3. during I was a young boy           4. at the age of a young boy            5.  in the period of time of being a young boy              

B.    1. I am risking having          2. I was risking having          
3. I take a risk to have              4. I was risking to have          
5. I face the risk to have  

94.เฉลยข้อ A 1 เพราะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต สังเกตุจากคำว่า lost เพราะฉะนั้น when I was  young  เป็นตัวบ่งบอกเวลาที่สอดคล้องกับกริยา lost  B 2 เพราะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต จึงใช้  was และ คำว่า risk ตามด้วย gerund เสมอ

95.  ………A…….. that this contravenes the terms of the original agreement. ……B…….. as        to how we can rectify it .      

A.   1. I am sure that you will agree             
2. I am sure that you would agree          

3. I am sure that you will agree with            
4. I am sure that you would have agreed                 

5. I am sure that you will have agreement              

B.   1. I await for your suggestion         
2. I also await your suggestion                       

3. I am looking for your suggestion       
4. I therefore await your suggestion                 

5. I am looking forward to your suggestion

95.เฉลยข้อ A 1 เพราะข้อนี้สัมพันธ์กับข้อ B  สังเกตุจากข้อ B  เป็นเหตุการณ์ที่ยังไม่เกิดขึ้น จึงเลือกข้อที่ตอบว่า  I am sure that you will agree.  B 4 เพราะ await (รอคอย ตามด้วยคำนาม ต่างจาก wait ต้องตามด้วย for)

96.  Animals, like humans, ……..A………. . After months and years in a cage without any        interest, ……….B……….. .      

A.   1. affect their environment             
2. are affecting their environment             

3. are generating their environment        
4. are affected by their environment          

5. are generated by their environment       

B.    1. animals begin to ruin their natural characteristics                 

2. animals begin to lose their natural characteristics          

3. animals begin to spoil their natural characteristics                 

4. animals begin to damage their natural characteristics                     

5. animals begin to devastate their natural characteristics         

96.เฉลยข้อ A 4 เพราะในประโยคต้องการสื่อความว่าประธานของประโยค (animals) ได้รับผลกระทบจากสภาพแวดล้อม ดังนั้นโครงสร้างประโยคจึงอยู่ในรูป passive voice= Subj. + be + v.3 และกริยาที่หมายถึงผลกระทบคือ affect ในขณะที่ generate หมายถึง สร้าง  B 2 เพราะ After months and years in a cage without any interest = หลังจากที่สัตว์ถูกกักขังอยู่ในกรงเป็นเวลาหลายปี โดยปราศจากความสนใจ  ทำให้สัตว์เหล่านี้เริ่มสูญเสียลักษณะความธรรมชาติของสัตว์  lose= สูญเสีย  spoil= ทำให้เสียหาย   damage, ruin,   devastate= ทำลาย

97. A horse is ……..A………,  it’s …….B…….. that can do a lot of work.      

A.   1. not a beautiful animal       2. either a beautiful animal   
3. never a beautiful animal         4. neither a beautiful animal      
5. not only a beautiful animal             

B.   1. a useful animal    2. a useless animal     3. nor a useful animal       4. also a useful animal    5. as well as useless animal   

97.เฉลยข้อ A 5 เพราะรูปประโยคส่วนแรกต้องการเชื่อมความหมายที่คล้อยตามกันกับประโยคส่วนที่สอง ดังนั้นจากความหมายของประโยคจึงควรสื่อว่าประธาน A horse= ม้า เป็นสัตว์ที่สวยงามจึงต้องใช้คำว่า not only  B 4 เพราะในประโยคแรกที่มีการใช้คำว่า not only ดังนั้นในส่วนที่สองที่เชื่อมประโยคที่คล้อย ตามกันจึงต้องใช้ also

98.  ……..A……. by studying twice as hard, Alex did not realize …….B……. he was leading.       

A.   1. While struggled to get ahead in life           
2. While struggling to get ahead in life               
3. While I struggled to get ahead in life               
4. Being struggling to get ahead in life           

5. Being struggled to get ahead in life            

B.   1. how lonely he is          2. how is he lonely     3. what a lonely life  

4. what a lonely life is          5. what is a lonely life

98.เฉลยข้อ A 2 เพราะในส่วนนำ while ทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมข้อความ While ต้องตามด้วย v.ing และในประโยคต้องการสื่อความว่า Alex เป็นผู้ที่ดิ้นรนให้ตัวเองมีชีวิตที่ก้าวหน้า ดังนั้นตัวเลือกที่ 2 และ 4 ที่มีประธานคือ I จึงไม่ถูกต้อง  B 3 เพราะ  what + (a, an) adjective + noun + subject + v.  how + adjective + subject + v. ในประโยคสื่อว่า Alex didn’t realize. Alex ไมได้ตระหนักถึง……ที่เงียบเหงา ดังนั้น คำนามที่สื่อถึงในที่นี้คือ life = ชีวิต

99.  Arafat asked if Palestinian police chief Ghazi Jabali ………A……. to the West Bank       town of Ramallah ……B……. .      

A.  1. allow to travel from Gaza    2. allows to travel from Gaza  
3. allowing to travel from Gaza    4. is allowed to travel from Gaza      5. was allowed to travel from Gaza        

B. 1. attended his father’s funeral               
2. to attend his father’s funeral         

3. attending his father’s funeral                    
4. to be attended his father’s funeral                        

5. to be attentive at his father’s funeral        

99.เฉลยข้อ A 5 เพราะประโยคมีกริยาคือ asked that ซึ่งต้องตามหลังด้วยโครงสร้าง present subjunctive (subject + infinitive without to) ที่แสดงความปรารถนาในเชิงคำสั่งการขอร้องในสิ่งที่พอจะเป็นไปได้ นอกจากนั้นประธานของโครงสร้าง present subjunctive (Palestinian police chief) ยังสื่อความว่าเป็นผู้ถูกกระทำ จึงต้องอยู่ในโครงสร้าง passive voice (be + v.3)  B 2 เพราะส่วนนี้ต้องการวลีทีแสดงจุดประสงค์ (The Infinitive of Purpose) ก็คือ To + Verb โดยปกติเราจะแปลคำว่า "to"  ว่า ที่จะ หรือว่า เพื่อที่จะ

100.  Spurlock decided to eat three McDonald’s meals a day for one month. …….A…….        he had imagined: By the end of the month, Spurlock ……B…….. .       

A.  1. The effects were much the worst           
2. The effects were much worse than                     

3. The affects were much worse than              
4. The products were much the worst           

5. The products were much worse than         

B.  1. gain more than 20 kilograms             
2. gained more than 20 kilograms                         

3. will gain more than 20 kilograms           
4. had gained more than 20 kilograms                 

5. is going to gain more than 20 kilogram

100.เฉลย ข้อ A 2 เพราะประโยคก่อนหน้านี้บอกว่า Spurlock ได้กินอาหารที่ McDonald วันละ 3 มื้อเป็น เวลา 1 เดือน  ประโยคต่อมาจึงกล่าวถึง…….ที่เกิดขึ้น (effects= ผลกระทบ ซึ่งเปรียบเทียบกับสิ่งที่เขาได้จินตนาการ จึงควรอยู่ในโครงสร้างการเปรียบเทียบขั้นกว่า much worse than)  B 4 เพราะประโยคก่อนหน้านี้บรรยายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต

แหล่งที่มา : ข้อ 1-35 = https://web.facebook.com/GATEngThailand/posts

                  ข้อ 36-45 ,76-100 = https://www.tutorferry.com/2018/08/M6-tcas-part-conversation.html?

                  ข้อ 46-65 = https://www.tutorferry.com/2019/03/English-Test-M4.html

                  ข้อ 66-75 = https://www.facebook.com/GATEngThailand/photos/pcb.